- รายได้/โบนัส/สวัสดิการ: บริษัทที่ผลกำไรลดลงจากภาคการส่งออก อาจมีการ ชะลอการขึ้นเงินเดือน, ลดโบนัสประจำปี, หรือทบทวนสวัสดิการ ซึ่งกระทบต่อขวัญกำลังใจและกำลังซื้อของพนักงาน
ในการกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเป็นสมัยที่สอง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ขู่ว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรหรือกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
- นัย: เป็นการสร้างกำแพงภาษีพื้นฐานที่ทุกประเทศต้องเผชิญเหมือนกันหมด
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องลดเลิกการขาดดุลการค้าเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนโยบายกำแพงภาษีและมิใช่ภาษี ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ของไทย ความสัมพันธ์ของเราในอดีตนั้น น่าเสียดายที่ไม่เป็นไปอย่างต่างตอบแทน
- กลุ่มผู้ใช้แรงงานและประชาชนทั่วไป กำลังเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนทางอาชีพครั้งใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรมส่งออกและห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง ความเสี่ยงต่อการลดชั่วโมงทำงาน การเลิกจ้าง และรายได้ที่ลดลง กลายเป็นเงาที่คุกคามความมั่นคงในชีวิตประจำวัน และทำให้การดิ้นรนทางเศรษฐกิจยากลำบากยิ่งขึ้น
“เราจะเรียกเก็บภาษีจากพวกเขาประมาณครึ่งหนึ่งของที่พวกเขาเรียกเก็บและเคยเรียกเก็บจากเรา ดังนั้นภาษีศุลกากรจะไม่ใช่ภาษีที่เก็บในอัตราที่เท่ากัน” ทรัมป์กล่าวและว่า “ผมคงทำแบบนั้นได้ แต่คงเป็นเรื่องยากสำหรับหลายประเทศ และเราไม่อยากทำเช่นนั้น”
โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยอาจถูกกระทบทั้งปัจจัยการผลิตและส่งออก จากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่มีแนวโน้มจะเห็นความยุ่งยากเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพฯ
เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐฯ และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี Trump ตั้งกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่นๆ เราอาจพิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าวสามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา
กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ได้แก่ พลอย และเครื่องประดับเพชรพลอยรูปพรรณ
โดยในจดหมายที่โพสต์ถึงประเทศไทยมีใจความดังนี้
- ขอบเขต: บังคับใช้กับสินค้านำเข้า ทุกประเภท จาก ทุกประเทศ ทั่วโลก
ต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการเจรจากับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับภาคการผลิตและผู้ประกอบการในประเทศ ต้องมีกลไกช่วยเหลือและปรับตัวรองรับ
“เราจะเก็บภาษีพวกเขาประมาณครึ่งหนึ่งจากที่พวกเขาทำและเก็บจากสหรัฐฯ มาตลอด ดังนั้นกำแพงภาษีนี้ยังไม่ใช่การตอบโต้อย่างเต็มที่” นายทรัมป์กล่าว “ผมควรจะทำอย่างนั้น ผมคิดว่านะ แต่มันคงจะยากลำบากสำหรับประเทศมากมาย และเราไม่ต้องการทำแบบนั้น”